พันธกิจนักศึกษาภูมิภาค 2024 - สองสต๊าฟเยี่ยมเหนือพาน้องกลับบ้านแห่งความเชื่อ

17-28 กันยายน 2024 ช่วงเวลา 10 วันเต็ม ที่สต๊าฟเจี๊ยบและสต๊าฟเปาผนึกกำลังสร้างเสาหลักแห่งความเชื่อให้กับน้องนักศึกษาที่ม.เชียงใหม่ และม.แม่โจ้ ด้วยการสอนพระคัมภีร์ และอบรมนักศึกษาผ่านค่าย

เรื่องราวจากสต๊าฟเปา

"พันธกิจนักศึกษาใน มช. และ แม่โจ้ทำให้ผมขอบคุณพระเจ้าแบบสุดๆ"

มีครั้งไหนบ้างมั้ย ที่เรารู้สึกขอบคุณพระเจ้า เพราะได้ยินหรือได้เห็นเรื่องราวของคนอื่น และผมพบว่าสิ่งที่ผมได้เห็นพันธกิจนักศึกษาใน มช. และ แม่โจ้นี่แหละ ที่ทำให้ผมอยากจะขอบคุณพระเจ้าเป็นอย่างยิ่ง และอยากจะแชร์ให้พี่ๆน้องๆในพันธกิจ นคท. ได้ฟัง

ผมและพี่เจี๊ยบได้มีโอกาสไปเยี่ยมนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งทั้ง 2 มหาวิทยาลัยนี้เป็นมหาวิทยาลัยที่ไม่ได้มีสต๊าฟ นคท. อยู่ประจำ พวกเขาต้องทำพันธกิจด้วยตัวพวกเขาเอง โดยที่สต๊าฟ นคท. ทุกคนทำได้เพียงแค่อยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ และสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ผมได้ขอบคุณพระเจ้า

ณ วันที่ผมได้เหยียบมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และ มช. ผมได้เห็นความ "หิวกระหาย" ในพระคำของพระเจ้าของน้องๆทั้ง 2 มหาวิทยาลัยนี้ มีน้องมาเรียนพระคัมภีร์กับผมทั้งวันจนถึงกลางคืน จนจำได้ว่ามีอยู่วันนึงเราเรียนกันจนไม่ได้กินข้าวเที่ยงกัน ผมก็คิดว่า "เอ๊ะ ทำไมวันนี้มันหิวแปลกๆ" และก็ได้คำตอบในตอนเย็นว่า "อ๋อ เรายังไม่ได้กินข้าวเที่ยงกันเลยนิ"

ก่อนไปทริปภาคเหนือนี้ ผมก็เตรียมตัวไปหลักๆ 3 เรื่องคือ

1. เตรียมตัวเพื่อไปสอนพระคัมภีร์ 66 เล่ม สิ่งที่ผมชื่นชมก็คือ "คนที่มาเรียน" ผมพูดอยู่กับน้องๆ ที่มาเรียนเสมอว่าสิ่งที่ผมสอนไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่ใช่เรื่องที่ทุกคนคุ้นเคย แต่ก็ขอบคุณน้องๆที่อดทนเรียนจนจบ มันช่างเจ๋งจริงๆ ที่เราได้ทำสิ่งที่ยากๆ ด้วยกัน

2. เตรียมตัวเพื่อไปสอนพระคัมภีร์แบบ IBS ที่ผ่านมาเราฟังเสียงพระเจ้าได้ไม่เคลียร์ เพราะเราศึกษาพระคัมภีร์ได้ไม่เคลียร์ ถ้าเราอยากฟังเสียงพระเจ้าให้เคลียร์ ก็คงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องศึกษาพระคัมภีร์แบบเคลียร์ๆ และ IBS ก็เป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้เราฟังเสียงพระเจ้าได้อย่างชัดเจน สุดยอดจริงๆ พระคำของพระเจ้ามันช่างหวานล้ำปานน้ำผึ้ง

3. เตรียมตัวเพื่อไปสอนว่าข่าวประเสริฐคืออะไร แท้จริงแล้วนั้น ก่อนจะออกไปประกาศข่าวประเสริฐกับคนอื่น เราต้องประกาศกับตัวเองทุกวัน แม้ว่าเราเป็นคริสเตียนแล้ว เรายังคงต้องประกาศข่าวประเสริฐให้ตัวเองฟังอยู่ทุกวัน เพื่อให้ตัวเองกลับใจใหม่ กลับมาใช้ชีวิตให้ถูกทางอย่างที่ควรจะเป็น เพื่อให้เรามีความหวังในข่าวประเสริฐ คือแผ่นดินของพระเจ้าที่จะมาถึง และข่าวประเสริฐนี้แหละ ที่เป็นความหวังกับเราที่เราจะนำความหวังนี้ออกไปถึงคนอีกมากมาย ถ้าเราไม่อินกับข่าวประเสริฐทุกๆวัน บอกเลยว่าเราจะออกไปประกาศแบบแห้งเหี่ยวไปวันๆ

ก็ต้องบอกเลยว่า เรื่องที่ผมเอาไปสอน มันไม่ได้เป็นเรื่องที่ใหม่ ไม่ได้เป็นเรื่องที่เนื้อหาดูวัยรุ่น แต่ด้วยพลังจากพระคำของพระเจ้า มันยังทิ่มแทงใจของเราได้อยู่ทุกๆวัน ทุกยุคทุกสมัย และผมก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สิ่งที่ผมได้มีโอกาสถ่ายทอดไปในช่วงที่ผ่านมาแล้วนั้น นักศึกษาที่ผมได้มีโอกาสสอนจะเอาไปสอนต่อ เอาไปบอกต่อ เอาไปให้คนอีกมากมายได้รู้จักพระเจ้า อย่างที่พี่สต๊าฟ นคท. ฝันอยากเห็นภาพแบบนี้เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัย

แม้วันนี้ ผมก็ได้กลับมาอยู่ใน กทม. แล้ว แต่ผมยังรู้สึกขอบคุณพระเจ้าอยู่เสมอ เมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในแม่โจ้ และเชียงใหม่ คงเป็นความรู้สึกเหมือน อ. เปาโลที่เขามักจะขอบคุณพระเจ้าทุกครั้งที่ได้ยินเรื่องราวของผู้เชื่อ ที่พวกเขาเติบโตความเชื่อ มีความรักต่อกันและกัน และมีความหวังในข่าวประเสริฐบนแผ่นดินสวรรค์

โดย สต๊าฟเปา ชลวีร์ กีวัฒนาเจริญ

---

เรื่องราวจากสต๊าฟพี่เจี๊ยบ

"เรื่องว้าวๆ จากการเยี่ยมเยียนทางภาคเหนือ"

ทุกครั้งที่ไปแม้จะพูดเรื่องเดิมๆ แต่เราเห็นถึงฤทธิ์เดชของพระวจนะที่ทำงานในชีวิตของผู้เชื่อเสมอ

เริ่มจาก...

1. พระเจ้าส่งทูตสวรรค์คือวัยทำงาน เป็นทีมงาน เป็นคนดูแลพี่สต๊าฟ เป็นพี่เลี้ยงในค่ายของทาง ม. เชียงใหม่ ความรัก ความห่วงใย การเอาใจใส่และการเสียสละของวัยทำงานที่มีต่อน้องนศ.เราได้เห็นแล้วว่าพระคำของพระเจ้าที่ตกในชีวิตของผู้เชื่อจากรุ่นสู่รุ่นมันเกิดผลงอกงามเสมอ

   
   

2. ค่ายของชมรมคริสตชนมช.จัดขึ้นในชื่อว่า “BACK TO BASIC กลับบ้าน(แห่งความเชื่อ)” ที่กระทุ้งให้ทุกคนกลับสู่รากฐานแห่งความเชื่อที่ถูกต้อง เหมือนเราที่ทานอาหารทุกวัน อาจจะเบื่อบ้างแต่ขาดไม่ได้และต้องทานให้ครบหมู่ เช่นเดียวกับน้องนศ. ที่พวกเขาถูกปลุกให้ตื่นตัวและหิวกระหายพระคำของพระเจ้า ค่ายนี้นคท.ทำสิ่งที่สำคัญเหมือนเดิมคือ แนะนำให้น้องๆ ศึกษาพระคัมภีร์ด้วยตัวเองด้วย IBS พวกเขาได้สังเกต ได้สรุป ได้ใคร่ครวญและคิดถึงการนำไปใช้ด้วยตัวเอง เมื่อเสร็จจากค่าย ถ้อยคำที่หวานซึ้งที่สุดสำหรับพี่สต๊าฟคือ “หนูจะเริ่มอ่านพระคัมภีร์เล่มไหนดีค่ะ หรือผมจะเริ่มศึกษาพระคัมภีร์เล่มไหนที่เหมาะสม”

   
   

3. การศึกษาพระคัมภีร์IBS ที่นคท.ยังเป็นเรื่องที่สนุก คุ้นเคย น่าค้นหาสำหรับน้องๆ ทั้งสอนส่วนตัว สอนกลุ่มย่อยหรือศึกษาร่วมกันในชมรม เพราะเมื่อเขาเข้าใจพระคำ จะนำสู่น้ำพระทัย เพื่อมีชีวิตที่เปลี่ยนใหม่ที่ไม่ใช่แบบเดิมอีกต่อไป นี่แหละคือสิ่งที่เรานคท.ยังคงสร้างความเปลี่ยนแปลง ผ่านสิ่งเล็กๆที่ลึกซึ้งในหัวใจและชีวิตของผู้คน

   
   

4. การจัดเตรียมอย่างดีเลิศยังไม่หมด เมื่อเจี๊ยบต้องแยกกับเปาเพื่อไปประจำที่ม.แม่โจ้ 1 สัปดาห์ ในขณะที่ฝนตกทุกเช้าและน้ำเริ่มท่วมทะลักเข้ามาในตัวเมืองเชียงใหม่ พระเจ้าจัดเตรียมบ้านพักของน้อง GCF ที่แสนดีที่บ้านของวินและเนย ที่มอบบ้านทั้งหลังให้เราพักอาศัย รวมทั้งได้เจอกับน้องภัส อดีตกกก.กลางนศ.ซึ่งจบจากม.จุฬาฯ เป็นช่วงที่ภัสบอกว่า “เป็นการพบและเป็น ทริปที่เปลี่ยนชีวิตของภัสเลยก็ว่าได้” นั่นคือน้องภัสได้กลับมารื้อฟื้นความสัมพันธ์กับพระเจ้า ได้ไปเยี่ยมเยียนน้องนศ.ที่ชมรม ได้ดูแลน้องๆ เหนือสิ่งอื่นใดได้ศึกษาพระคัมภีร์ ทำความเข้าใจเพื่อรู้จักตัวเอง รู้จักชีวิตและค้นหาน้ำพระทัยของพระเจ้าบนรากฐานของพระคำ

ไม่คำใดที่จะบรรยายได้ นอกจากพูดซ้ำๆว่า ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณพระองค์ในการจัดเตรียมอย่างดีเลิศ

โดย สต๊าฟเจี๊ยบ ประภาวดี วิศิษฐ์ชาติ